วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552

My Favorite Stuff : ชีวิตต้อง...disco by "Groove Riders"


สวัสดีตรุษจีน ทุกๆคน

ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุข มีตังค์ใช้เหมือนได้แต๊ะเอียทั้งปี ใครได้เยอะๆก็มาแบ่งกันมั่งน้า


มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เรา proudly present วงดนตรีอันดับหนึ่งในดวงใจของเรา อย่าตื่นเต้นไปล่ะ เกริ่นชื่อเรื่องไปแล้ว ทุกคนก็คงต้องรู้ละเนอะว่าหมายถึงวงอะไร แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้จักดี ขอเราแนะนำก่อนเลยละกัน


แต่น แตน แต๊น


แน่ะ แค่มาดก็กินขาดแล้วอะดิ




“Groove Riders”เป็นวงโปรด ในดวงจาย ที่อยู่ในดวงจายก็เพราะแนวดนตรีของGroove Ridersเอง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ใครฟังก็คงจะรู้นะ นอกจากความเป็นแนวดนตรีแล้ว Groove Ridersยังเป็นวงที่มีเป็นตัวของตัวเองสูง มีแบบฉบับเป็นของตัวเอง ไม่ยอมตามกระแสเหมือนหลายๆวงในสมัยนี้ ออกอัลบั้มใหม่ทีแนวเพลงก็เปลี่ยนที่เพื่อให้มีคนอุดหนุด ซึ่งไม่ใช่Groove Ridersที่ยังคงทำดนตรีตามแบบเดิมมาเป็นเวลาเกือบสิบปี อีกทั้งยังเป็นวงดนตรีที่มีฝีมือสูงในระดับสูงมากซะด้วย ถ้าเป็นนักดนตรีด้วยกันเองก็คงจะรู้ แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปขอให้สังเกตุว่าทุกครั้งที่Groove Ridersเล่นสดจะเหมือนกับว่า เอาเพลงมาเปิดซะงั้น โน้ตทุกตัว ทุกจังหวะ เป๊ะหมด จะมีแค่ 30เปอร์เซนต์ที่ภายในวงกำหนดกันว่าให้เป็นอิสระในการimprovice ทำให้ Groove Ridersเป็นวงดนตรีมืออาชีพระดับต้นๆของไทยเลยก็ว่าได้



Groove Ridersทีผลงานออกมาหลายอัลบั้ม ไปร่วมออกบางเพลงกับอัลบั้มของคนอื่นก็มีบ้าง แต่ที่เป็นอัลบั้มของGroove Ridersเองมี4อัลบั้ม ได้แก่
Discovery
Discovery2
Enough
Lift




หลายคนคงจะรุ้จัก แต่เราก็มั่นใจว่าเรารู้จักมากกว่าใครหลายคน 55 เลยจะมาทำให้ทุกคนรู้จักกันมากขึ้น


"บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์"

คนๆนี้เป็นคนไม่ธรรมดา มีดีกรีเป็นถึงผู้บริหารของโตโยต้ามหานคร นอกจากจะเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์ คารมดี บุคลิกเท่แล้ว ยังมีทรัพย์สินเหลือล้น ช่างเป็นperfect manจริงๆ บุรินทร์เป็นนักร้องประจำวง เป็น frontman ที่มีหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างผู้ชมกับดนตรี เราจะสังเกตุเห็นบุรินทร์จะเป็นธรรมชาติเสมอเวลาแสดงสด บุรินทร์เป็นคนที่มีส่วนร่วมกับผู้ชมอยู่เสมอ เมื่อรวมกับบุคลิกความเป็นตัวของตัวเองแล้ว ยิ่งทำให้ผู้ชมประทับใจเค้าไปตามๆกัน โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบบุรินทร์ที่เป็นตัวของบุรินทร์เอง บุรินทร์มีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเองสูงมาก แทบจะหานักร้องคนไหนในประเทศไทยที่มีการร้องสไตล์นี้ได้อีกแล้ว เนื่องก็เพราะบุรินทร์ได้บอกว่า เค้าอยากจะให้คนจดจำที่เค้าเป็นบุรินทร์ เค้าจึงฝึกตามใจเค้าเองตั้งแต่แรก ไม่เลียนแบบใคร จะเห็นได้ว่าเวลาบุรินทร์coverเพลงของคนอื่น บุรินทร์จะร้องในแบบของตัวเองเสมอ...ในแบบของบุรินทร์



“ก้อ (ณฐพล ศรีจอมขวัญ)”

อดีตมือเบสวง P.O.P. คนนี้ก็ไม่ธรรมดา เนื่องจากมีดีกรีสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเบิร์กเลย์ ซึ่งเป็น มหาวิทยาลัยทางการดนตรีแห่งแรกของโลก และเป็บเวทีของศิลปินระดับโลกหลายๆคนที่ย่างกรายเข้าไปเรียน ก้อเป็นคนไทยคนแรกๆที่จบการศึกษาจากที่นี่ วงการเพลงในเมืองไทยไม่มีใครไม่รู้จักก้อ แม้แต่ต่างประเทศชื่อก้อก็ยังเป็นที่รู้จัก หากพลิกดูอัลบั้มของศิลปินต่างประเทศยางคนดูอาจจะเห็นชื่อก้อยู่บนปกซีดีนั่นด้วยก็ได้ก้อก็เป็นผู้นำของวง Groove Riders เป็นทั้งมือเบส โปรดิวเซอร์ คนแต่งเพลง เรียบเรียง เรียกได้ว่าเป็นผู้ให้กำเนิดวงเลยก็ว่าได้ ผลงานคุณภาพของ Groove Riders ทุกชิ้นงานมาจากฝีมือของคนผู้นี้ โดยส่วนตัวเราชอบก้อมากที่สุดในวงเลย เนื่องจาก เป็นเหมือนตัวพ่อของวง เป็นศิลปินที่มีทั้งหัวใจและฝีมือ ในตอนที่ Groove Ridersยังไม่ดัง ก้อก็ยังคงยืนยันเล่นดนตรีในสไตล์ที่ตัวเองรักต่อไป จนถึงทุกวันนี้เวลาก็พิสูจน์ว่าก้อคือของจริง ปล.เราเคยไปเกาะเวที ขอจับนิ้วที่สแลปสายเบสมาแล้วด้วย ปลื้ม หุหุ



“กั้ง (อดิศักดิ์ หัตถกุลโกวิท)”

กั้งเป็นนักดนตรี นักดนตรีในที่นี้คือนักดรตรีจริงๆ กั้งรักและมั่นคงในแนวทางดนตรีของตน คือกีต้าร์แจ๊ซ ตั้งแต่กั้งเล่นกีต้าร์มากั้งบอกว่าไม่เคยแม้แต่จาเล่นดนตรีPOP หรือ ดนตรี Rock กั้งเป็นมือกีต้าร์ที่มีประสบการณ์สูงมาก เล่นอยู่กับวงออเครสต้าอยู่เป็นระยะ มีช่วงหนึ่งกั้งไม่ฟังและเล่นเพลงไทยเลย เพราะรู้สึกว่าเพลงไทยส่วนใหญ่ก็เดิมๆ ซ้ำกันหมด ไม่ก็อปต่างประเทศมา ก็ก็อปกันเอง จวบจนทุกวันนี้มีGroove Ridersมาให้กั้งสร้างสรรค์และเล่นในแนวทางของกั้งเอง โดยผลงานของGroove Ridersนอกจากจะมีก้อแต่งเพลงแล้ว กั้งจะช่วยเติมแต่งด้วยเช่นกันโดยส่วนตัวแล้ว กั้งเป็นมือกีต้าร์ระดับเทพที่หาตัวจับยากมาก ในเมืองไทยมีคนเล่นกีต้าร์แจ๊ซระดับกั้งแค่ไม่กี่คน จะเห็นได้ว่าไม่เคยมีใครเล่นเพลงGroove Ridersได้เหมือนกับต้นฉบับก็เพราะ การเล่นกีต้าร์ของกั้งนี่แหละที่หาคนเลียนแบบยากมาก และการแต่งของกั้งก็หาคนเล่นยากด้วย



“มาตร(มาตรชัย มะกรูดทอง)”

แม้ว่าตำแหน่งมือกลองจะไม่ค่อยโดดเด่นมาก แต่Groove Ridersก็ไม่ยอมให้มือกลองคนไหนมาเล่นแทนมาตร มาตรเป็นมือกลองของค่ายเบเกอรี่มาก่อน ถ้าเมื่อก่อนดูคอนเสิร์ตของเบเกอรี่จะเห็นมาตรเล่นให้เกือบทุกวง ก่อนที่จะมีGroove Riders มาตรโดนทาบทามจากหลายวงและหลายค่ายมาก แต่มาตรก็เลือกที่จะมาเป็นสมาชิกของGroove Ridersเนื่องจากรู้สึกถึงความเป็นดนตรีที่ตนเองชื่นชอบ
โดยส่วนตัว มาตรก็เช่นเดียวกับกั้ง ไม่ค่อยเห็นวงไหนเล่นจังหวะกลองของGroove Ridersได้เท่าตัวมาตรเอง และตั้งแต่ผ่านมากเล่นสดทุกครั้งนักดนตรีย่อมมีผิดพลาดกันบ้างไม่เว้นแม้แต่สมาชิกGroove Riders แต่ยกเว้นมาตรไว้คนหนึ่ง เค้าได้รับการยกย่องจากคนทั้งวงว่าไม่เคยผิดพลาดเลยซักครั้งเดียว


วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ไม่มีชื่อเรื่อง

ขณะนี้เป็นเวลา สองนาลิกา สิบเอ็ดนาที .... ตู้ด

มานั่งเม้นเวลานี้ อากาดดีจิงๆๆ

วันนี้สอบฟิ ห้าห้าห้า
ไอที่เหมือนก้อเหมือนชิบหาย แต่ไอที่ไม่เหมือนก้อทำไม่ได้
เยี่ยมดีจัง โนะ

วันนี้เลยไปฉลองต่อด้วยการเล่นบอลตู้

อยากจะบอกว่าไอซ์เกรียนเรามีลีลาในการเล่นไม่เบาทีเดียว
ถามตองได้ว่าเล่นกะไอซ์สนุกขนาดไหน
แต่ก็ต้องขอประนาม นายบวรพัฒน์ และ ต้า ที่กุชวนแล้วไม่ไป
กุงอน เชอะ

สุดท้ายนี้ก็ขอกล่าวถึง การสอบlab ที่จะมาถึง
ถ้าไม่มีกุก้อจาได้ไปsay hiกะลุงซานต้าแล้ว

เซง ห่าน

วันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สับสน

ลมหนาวโชยมา...พร้อมกับการสอบมิดเทอม

เซงงงงงงงโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ทำไมคนเรายิ่งโตขึ้นยิ่งมีภาระ ยิ่งมีเรื่องให้คิดมากขึ้น ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วเราควรแสวงหาความสงบแก่ตนเองมากกว่า ชีวิตในทุกๆวันของเราควรจะต้องมีความสุขขึ้น แต่ทุกวันนี้มันอะไรกันว้า

คนเราเกิดมาทำไม?
ไม่มีใครตอบได้ แต่ทุกคนก็ขอใช้ชีวิตที่ได้เกิดมาให้สมใจอยาก
แต่ทำไมคนเราต้องทำไรฝืนใจตัวเองทั้งนั้น พอคนที่ฝืนได้มากกลับยิ่งได้การยอมรับจากสังคม เช่นนั้นการที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้มันใช่วิถีทางที่ถูกต้องแล้วหรือ เหมือนทุกคนต้องเข้าสู่วัฏจักรอะไรบางอย่าง ซึ่งทุกๆคนก็ยอมที่เข้าไอกระแสวงจรนี้ความเต็มใจ

ทุกวันนี้คนภายในจิตใจคิดอย่างไร อยากได้อะไร แต่กลับมีบางสิ่งบางอย่างมาตีกรอบให้เราทำอีกอย่าง กลับกลายเป็นว่าทุกวันนี้คนเราเองเข้าใจกันอยากขึ้นไปอีก เราทำกันไปเพื่ออะไร

สุดท้ายนี้ เนื่องจากได้เวลาอันเหมาะสมแล้ว พรุ่งนี้ต้องมีภาระสอบมิดเทอมอันหนักอึ้ง แต่ตัวเองก็ยังสับสนอยู่ในหลายๆเรื่อง ภาวนาให้เราสามารถปรับตัวยอมรับความสับสนนี้ให้ได้สักวันนะ จ๊ะ

ปล. พิมไปบ่นไป สำนวนอ่านเข้าใจเพราะไม่ได้คิดจะให้ใครอ่าน ขอแค่ที่บ่นนิดนึง นะ จ๊ะ

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ครั้งแรก...

ฮัลโหลเทส

ครั้งแรก

ไม่มีไรจะเขียน...
แต่ก็ต้องเขียน

ขอบจบด้วยประการฉะนี้